ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ภัยใกล้ตัวน้องหนู "ของเล่นหน้าโรงเรียน" สนุก...แต่อันตรายผู้ปกครองต้องรู้

ในวัยเด็กสวรรค์ของเด็กๆ ก็คือของกินและของเล่น รอบรั้วโรงเรียนจึงเต็มไปด้วยเหล่าร้านของกินและของเล่นที่เป็นแหล่งช๊อป ปิ้งสำหรับหรับเด็กๆ ซึ่งตามก็จะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหลากสีสัน น่ากิน และโดยเฉพาะของเล่นต่างๆ ที่เป็นแฟชั่นสำหรับเด็กๆ มีหลายรูปแบบสีสันสวยงามจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้เด็กๆ ควักเงินออกมาซื้อ ของกินของเล่นเหล่านี้มีสีสันน่ากินน่าเล่น แต่เด็กๆหารู้ไม่ว่าของเด็กเล่นบางชิ้นแฝงอันตราย กลายเป็นภัยมรณะใกล้ตัวกว่าที่คาดคิด


 แม้ ทางครูและโรงเรียนร่วมกัน สคบ. เองจะออกประกาษห้ามขานสินค้าที่อันตรายเหล่านี้ให้กับเด็กๆ แต่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็ยังแอบนำมาขายอยู่เสมอเพราะรายได้ที่สวยงานและการที่
จะหลอกล่อเอาเงินจากมือเด็กๆ มันช่างง่ายเสียเหลือเกิน นอกจากนี้ยังมีการลักลอบขายสินค้าอันตรายเหล่านี้อยู่ โดยมีทั้งร้านค้าประจำ หรือร้านแบบรถเคลื่นที่ ที่จะมาจอดขายทุกวันหลังเลิกเรียน ดังนั้นหน่อยงานที่เกี่ยวข้องควรเอาจริงเอาจังกับการปราบพ่อค้าแม่ค้าเหล่า นี้ และควรลงโทษให้เข็ดหลาย


สำหรับของเล่นเด็กที่ขายกันตามบริเวณหน้าโรงเรียนใน ปัจจุบันกว่า 90 % มีคุณภาพต่ำ และราคาไม่แพงเพื่อต้องการสร้างแรงจูงใจให้เด็กหาซื้อได้ สินค้าราคาถูกคุณภาพก็ไม่ดีเหล่านี้ทำขึ้นจากองค์ประกอบของวันสดุไม่ได้ มาตรฐาน สีที่ใช้มีเป็นสารเคมีอันตราย ไม่มีความคงทน และในบางครั้งเป็นของเล่นที่รุ่นแรงอันตรายมาก และขาดการแนะนำในการเล่น ของเล่นด้อยคุณภาพเหล่านี้ อาจทำสร้างอันตรายกับเด็กๆที่นำไปเล่นโดยไม่รู้

ใน ส่วนของเด็กๆ นั้น เมื่อเห็นของเล่นแปลกๆ ใหม่ๆ ก็จะเกิดความอยากรู้อยากลอง โดยไม่ได้คิดถึงหรือคำนึงว่าจะก่อให้เกิดอันตรายได้ แต่นึกถึงแค่ความสนุกเท่านั้น จึงต้องเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ที่ต้องช่วยสังเคราะห์ สอดส่อง คัดเลือกว่าสิ่งไหนเหมาะสม ควรเล่นหรือไม่ควรเล่น รวมถึงควรจะต้องมีการกำกับดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตสินค้า การนำมาขาย ให้มีเหมาะสมกับวัยและความปลอดภัยมากที่สุด

มีของเล่นหลาย อย่างที่ผู้ปกครองควรให้ข้อมูลกับเด็กๆ ลูกหลานว่าไม่ควรเล่น และควรรู้ถึงอันตรายของมันว่าจะสร้างความเสียหายหรือเป็นอันตรายกับเด็กๆ ลูกหลานของเราอย่างไรบ้าง เลยของนำข้อมูลของเล่นที่ไม่ควรให้เด็กเล่นมาเล่าให้ฟัง เริมกันเลยนะ

1. "ของเล่นชอร์ตไฟฟ้า"

 

เป็น ลักษณะแท่งพลาสติกคล้ายปากกา หรือแท่งหมากฝรั่ง เมื่อนำมาจี้ตามลำตัว ทำให้เจ็บคล้ายไฟดูด ถ้านำมามัดรวมกันแล้วกด จะทำให้กระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า อาจจะทำให้สลบหรือเสียชีวิตได้

2. "สไลม์" หรือ "น้ำลายเอเลียน"




วัตถุ คล้ายเยลลีเหลว มีสีสันสวยงาม ซึ่งแท้จริงแล้วผลิตออกมามีวัตถุประสงค์ไว้ดูดละอองฝุ่นตามซอกคีย์บอร์ด คอมพิวเตอร์ แต่ด้วยคุณสมบัติที่สามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้กลุ่มเด็กๆ นำไปใช้เป็นของเล่น โดยสไลม์ที่ซื้อตามหน้าโรงเรียนหรือสถานที่ต่างๆ ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าสามารถใช้เป็นของเล่นได้ เนื่องจากตรวจพบว่าภายในสไลม์มีสารบอแรกซ์ สารหนู และสารโลหะหนัก อย่างตะกั่วผสมอยู่ด้วย แม้ว่ามีปริมาณน้อย แต่หากสัมผัสเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้ และหากได้รับสารเคมีปริมาณมากอาจส่งผลต่อตับ ไต สมอง ซึ่งทำให้เด็กมีพัฒนาการช้ากว่าปกติ และในส่วนของสารบอแรกซ์นั้นอาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

3. "เบบี้คริสตัล" หรือ "ตัวดูดน้ำ"


มี ลักษณะเป็นเม็ดเล็กขนาดเท่าหัวไม้ขีด มี 7 สี บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ไม่มีวิธีการเล่นกำกับและไม่มี มอก.รับรองมาตรฐาน ลักษณะเป็นเม็ดกลม สีสวย คล้ายลูกอม ดูน่ากิน เมื่อนำไปแช่น้ำก็จะพองตัวขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อนำไปแช่ในน้ำย่อยเทียม (ที่มีสภาพเช่นเดียวกับน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์) เป็นเวลา 24 ชั่วโมง จะขยายตัวประมาณ 26 เท่า ไม่มีการย่อยสลายและใช้มือบีบไม่แตก ดังนั้น ถ้ามีการกลืนเม็ดเบบี้คริสตัลเข้าสู่ร่างกาย อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อระบบการย่อยและการขับถ่าย ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยอาจจะทำให้เด็กหายใจไม่ออก เพราะเม็ดเบบี้คริสตัลอาจจะไปอุดทางเดินหายใจเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือถึง แก่ชีวิตได้

4. “ลูกอมปีศาจ”


ใน สมัยก่อนเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากสีสันน่ากิน และยังสามารถเปลี่ยนให้ปากกับลิ้นกลายเป็นสีของลูกอมนั้นๆ ด้วย เด็กนักเรียนจึงชอบ แต่สีสันที่เห็นนั้นมาจากสีที่ใช้ย้อมผ้า ซึ่งเคยมีการพบผู้ป่วยจากการอมลูกอมปีศาจ และต่อมาได้ตรวจสอบพบสารตะกั่ว สารหนูและส่วนผสมของสีย้อมผ้า โดยสารเหล่านี้จะไปเคลือบเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ ขัดขวางการดูดซึมอาหาร เกิดอาการท้องเสีย และนำไปสู่การเกิดมะเร็ง

เท่า ที่ผ่านมาอันตรายที่มาจากของเล่นที่ไม่ได้มาตรฐานหน้าโรงเรียน ส่วนใหญ่จะถูกพูดถึงอยู่เพียงชั่วขณะ ในเวลาที่มันเกิดเรื่อง หรือมีคนใกล้ตัวเจอเท่านั้น  ดังนั้นจึงจำเป็นที่ผู้ปกครองและทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกัน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรลงพื้นที่ตรวจสอบและคอยสอดส่องดูแลดูแลร้านค้า ที่ทำผิดอยู่เสมอ ขณะเดียวกันผู้ปกครองและคุณครูก็ต้องให้ความรู้และสอนเด็กๆ ให้รู้จักของเล่นมหาภัยเหล่านี้ด้วย

การร่วมมือกันอย่างจริงจังเท่านั้นที่จะช่วยหยุดยั้งภัยของเล่นอันตรายเหล่านี้ได้อย่างยั่งยืน.

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โรงเรียนของฉัน .."โรงเรียนจักราชวิทยา"

ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายปี ตอนนี้เข้าสู่วัยผู้ใหญ่เต็มตัวมากเลยที่เดียว ทุกครั้งที่เดินทางกลับบ้านที่จักราชก็ต้องผ่านจุดนี้เสมอ นั่นคือ โรงเรียนจักราชวิทยา เป็นโรงเรียนในตัวอำเภอแห่งแรกที่เปิดสอนถึง มัธยาศึกษาปีที่ 6 ผมเองเป็นศิษย์เก่าที่นั่น มาพูดถึงความเป็นมาของโรงเรียนจักราชวิทยากันซักนิดนะครับวันนี้ ประวัติโดยย่อจักราชวิทยา โรงเรียนจักราชวิทยา  เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำอำเภอ  เดิมสังกัดกรมสามัญศึกษา  กระทรวงศึกษาธิการ  ได้รับอนุมัติให้เปิดการเรียนการสอน  เมื่อวันที่ 15  พฤษภาคม  พ.ศ. 2513

Affiliate ecomobi thailand อีกช่องทางของการสร้างรายได้ในแบบที่คุณต้องการ

การสมัคร Affiliate Ecomobi Thailand  หลายคนกำลังมองหางานเพิ่มรายได้ให้กับตัวเองเวลาว่าง ซึ่งในปัจจุบันต้องยอมรับว่าเป็นโลกของการซื้อขายออนไลน์ไปแล้ว และการซื้อขายออนไลน์ก็เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก และอีกหลายๆ คำถามออกมาว่า จะเริ่มขายออนไลน์ได้อย่างไร? หรือต้องมีต้อนทุนอะไรบ้าง และต้องเรียนรู้อะไร ในต่างประเทศ Affiliated เป็นนิยมกันมาก เพราะเป็นงานทีใช้ต้นทุนน้อย และปัจจุบันในประเทศไทยเราเองก็มี งานทางด้าน Affiliate เกิดขึ้นอยากมากมาย และมีเว็บไวต์ที่เป็นตัวกลางของ Affiliate ให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น จึงเป็นเรื่องที่หน้าสนใจมาก ในประเทศไทยมี Affiliate Ecomobi Thailand หากเพื่อนสนใจสมัคร Affiliate สามารถสมัครโดยตรงได้ที่  http://bit.ly/30pPg2f Affiliate คืออะไร หากให้อธิบายได้ง่ายๆก็คือ ตัวแทนจำหน่ายทีทำการแนะนำสินค้า หรือบริการ ผ่าน link ของเรา และเมื่อลูกค้าทำการซื้อ สินค้า หรือบริการผ่านลิงค์ของเราแล้ว เราก็จะได้ค่าแนะนำสำหรับการสั่งซื้อ สินค้า หรือบริการนั้นๆ และในประเทศไทยเองก็มีหลายเจ้าเลยครับ ยกตัวอย่าง เช่น Access trade , Shopee , Lazada ,involve asis ซึ่งต่างก็มีเงื่อ...

สูตรผักกาดเขียวดอง

สูตรผักกาดเขียวดอง ส่วนผสม     ผักกาดเขียวปลี 2 กก.     ข้าวสาร 3/4 ถ้วย     เกลือ 1 ถ้วย     น้ำสำหรับต้มเกลือกับข้าวสาร 1 หม้อใหญ่ ภาชนะ สำหรับหมัก ท่านว่าโอ่ง ดีที่สุด ถ้าเป็นโอ่งราดรี(ราชบุรี) จะเยี่ยม ถ้าไม่มี หม้อเคลือบ พลาสติคสำหรับใส่อาหารหนาๆ ก็ได้ ห้ามใช้ สเตนเลส อลูมิเนียม วิธีทำ     หั่นสี่ แช่ ล้างผักให้สะอาด จัดใส่กะละมังใบใหญ่     ต้มน้ำเดือด ใส่ข้าวสารและเกลือ ต้มไฟกลางจนข้าวเปื่อยใส ราว 1 ชม.     เท ส่วนที่ได้ในข้อ 2 เดือดๆใส่ผักที่จัดไว้ให้พอท่วม     ใช้ทัพพีพลิกผักไปมาราว 2 นาที     จับผักมารัดรวมกันเป็นก้อนๆ ให้ใจผักอยู่ข้างในรัดด้วยใบ ตามภาพ วางลงกดๆในภาชนะที่จัดไว้     ตักข้าวที่เหลือราดบนผัก โรยเกลือด้านบนอีกสัก 1- 2 ช้อนโต๊ะ เทน้ำเกลือที่เหลือให้ท่วมผัก น้ำที่เหลือทิ้งไปได้ 15 วันเป็นต้นไป นำออกมาปรุงอาหาร ที่เหลือเก็บไว้เช่นเดิมปิดให้มิดชิด ผักกาดเขียวดองเปรี้ยว ส่วนผสม     ...